Polyimide: วัสดุนี้มีลักษณะของอุณหภูมิสูงไม่เปลี่ยนรูป สารหน่วงไฟที่ดี มีความแข็งแรงและเสถียรภาพสูง และทนทานต่อสารเคมีและตัวทำละลาย ตามสถานการณ์การใช้งานต่างๆ สามารถใช้วัสดุโพลีอิไมด์ เช่น เหล็กแผ่นหรือวัสดุอื่นๆ ได้
อะคริโลไนไตรล์ บิวทาไดอีน สไตรีน (ABS) บนทางหลวง: พลาสติกชนิดนี้มีความแข็งแรง ความแข็ง ทนทานต่อการสึกหรอ และทนทานต่อสารเคมีสูง เนื่องจากช่วงประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยม จึงมักใช้ในการผลิตขั้วต่อไฟฟ้าและตัวเรือนพลาสติก
โพลีเอทิลีนเทเรฟทาเลต (PET): วัสดุนี้มักใช้ในการผลิตขั้วต่อไฟฟ้าที่ทนความร้อน ทนต่อการสึกหรอ และหน่วงไฟได้ดีเยี่ยม เช่น ขั้วสายไฟที่ใช้กับผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์
โพรพิลีน (PP): วัสดุนี้ทนความร้อนได้ดี ทนต่อรังสี UV และทนต่อการกัดกร่อน และมีการใช้กันอย่างแพร่หลายในขั้วต่อไฟฟ้า รถยนต์ ขวดเครื่องดื่ม และสาขาอื่น ๆ
โพลียูรีเทน (PU): วัสดุนี้มีความยืดหยุ่นและยืดหยุ่นได้ดี มีความทนทานสูง และใช้ในการผลิตขั้วต่อไฟฟ้าและตัวป้องกันสายเคเบิล
โพลีคาร์บอเนต (PC): วัสดุนี้มีความยืดหยุ่นสูงและมีลักษณะเฉพาะ เช่น สารหน่วงไฟ ทนความร้อน ทนความเย็น ทนต่อแรงกระแทก และทนต่อรังสียูวี โดยทั่วไปจะใช้ในการผลิตขั้วต่อไฟฟ้าทนความร้อน เคสแล็ปท็อป และอื่นๆ
วัสดุพลาสติกของขั้วต่อที่รวดเร็วแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสถานการณ์การใช้งานที่แตกต่างกัน การใช้วัสดุที่ถูกต้องช่วยให้มั่นใจได้ว่าขั้วต่อมีสารหน่วงการติดไฟ ความปลอดภัย และความน่าเชื่อถือที่ดีในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน